นานมาแล้ว มีเจ้าหญิงไตองค์หนึ่ง (ไต ? ไทย) เมื่อเติบโตเป็นสาวก็ไปหลงรักกับชายหนุ่ม คนหนึ่ง ชายหนุ่มก็หลงรักเจ้าหญิงมาก ทั้งสองมีความรักซึ่งกันและกันอย่างแน่นแฟ้น แต่เพราะความแตกต่างกันในเรื่องฐานะ ศักดิ์ ตระกูล ความรักของเขาทั้งสองจึงมีอุปสรรค มันเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงยากที่จะฟันฝ่าไปให้ถึงจุดหมายได้ ในเมื่อกำเนิดของเขาต่างกันราวฟ้ากับกิน
ชายหนุ่มเป็นลูกชายของมหาอำมาตย์ท่านหนึ่ง ความรักของคนทั้งสองก็ต้องถูกกีดขวางไม่ให้ติดต่อกัน แต่ความรักคือความรักที่รุนแรง ไม่มีกำแพงใด ๆ จะสูงเกินไปกว่าความรักเหมือนโรเมโอกล่าวว่า "แม้รั้วสิลา บ่มิอาจกั้นเราได้" แล้วหนุ่มสาวก็ถือโอกาสลอบพบปะกันเสมอ นับวันก็จะถูกกีดขวางมากขึ้น
วันหนึ่งทั้งสองก็นัดกันว่าจะหนีไปด้วยกันโดยขี่ม้าหนีไป พอได้เวลานัดชายหนุ่มก็มาคอยรับเจ้าหญิงในที่ลับ ๆ แห่งหนึ่งนอกเมือง ในที่สุดชายหนุ่มก็พาเจ้าหญิงหนีไปในกลางดึกคืนวันนั้น แต่ทั้งสองไปไม่รอดเพราะพระราชบิดาของเจ้าหญิงทราบเรื่องก็ให้ไพร่พลควบม้า ติดตามไป ตามไปทันในขณะที่ม้าของชายหนุ่มกับเจ้าหญิงไปถึงฝั่งของแม่น้ำซึ่งเป็น หน้าผาสูงชันมาก เมื่อหมดทางหนีเขาทั้งสองคิดว่าจะต้องถูกนำตัวไปลงโทษสถานหนัก อาจถึงขั้นประหารชีวิตก็ได้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจตัดสินใจได้ เสียงฝีเท้าม้าดังใกล้เข้ามาทุกขณะ เจ้าหญิงซึ่งนั่งข้างหลังม้าจึงเปลี่ยนมานั่งข้างหน้าเสียเอง เธอเป็นผู้ถือบังเหียนม้าแล้วให้วิ่งลงมาจากหน้าผาทันที ทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิต ณ ที่นั้น
แต่นั้นมาผาสูงนั้นก็ได้ชื่อว่า "ผาวิ่งชู้" และสิ่งต่าง ๆ ที่หล่นมาจากหน้าผารวมทั้งชื่อของคนทั้งสองก็เป็นชื่อเรียกแก่งหลาย ๆ แก่งในลำน้ำปิง เป็นที่ระลึกถึงความรักของคนทั้งสองซึ่งถือว่าความรักเป็นศาสนาอันบริสุทธิ์
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากล่าวถึงและเศร้าด้วย ใครไปที่นั่นต้องนึกถึงนิยายของหญิงชายคู่นี้ซึ่งรักกันแล้วต้องมาจบชีวิตที่ผานี้ คนยังไม่มีอิสระพอต้องถือตามประเพณีอย่างเคร่งครัด เมื่อฝ่าฝืนต้องมีโทษ ทำให้ขาดอิสรภาพในตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น