Funny game for your mobile

ร่องรอยพญานาคทั่วไทย

         พญานาคเป็นสิ่งลี้ลับที่รอให้พิสูจน์ มีข่าวการพบพญานาคอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นปลามีหงอนยาวว่ายเห็นแต่ลำตัวใต้ลำน้ำโขงบ้าง รอยเลื้อยเป็นทางบ้าง รูปถ่ายติดพญานาคซึ่งมักจะทำขึ้นมาเอง สุดท้ายก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าพบเห็นจริงๆที่ไหน ไม่ว่าพญานาคจะมีตัวตนจริงหรือไม่ก็ตาม ธรรมชาติล้วนทำให้เราตื่นเต้นได้เสมอเมื่อมนุษย์พบเห็นร่องรอยอัศจรรย์อันดูคล้ายพญานาค สำหรับบ้านเราแน่นอนที่ไหนมีข่าวค้นพบ ที่นั่นจะมีคนแห่กันมา ก็แห่มาขอหวยนั่นแหล่ะ แต่การตามรอยพญานาคก็ไม่ใช่เรื่องแย่ไปซะหมด มันทำให้เราได้สัมผัสความสวยงามจากธรรมชาติด้วย มาดูกันดีกว่าว่าเราจะเดินทางไปดูร่องรอยพญานาคได้ที่ไหนบ้าง


"หินพญานาค" จ.สุพรรณบุรี

            ก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายหัวเศียรพญานาคนีัเมื่อมองไกลๆ ยิ่งดูเหมือนพญานาคเล่นน้ำเหลือเกิน ประกอบกับน้ำตกเบื้องหลังแล้วยิ่งรู้สึกว่าหินนี้ดูมีชีวิตมากยิ่งขึ้น หลายคนเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ต่างพากันเดินทางมาเพื่อขอเลขนำโชคกันเป็นจำนวนไม่น้อย
ที่มาของหินนี้ก็คือเจ้าของปั๊มน้ำมันได้เปิดปั๊มน้ำมันขึ้นเพื่อเป็นของขวัญให้ลูกสาว แล้วพบว่าหินก้อนนี้มีลักษณะคล้ายเศียรพญานาค และมีสีเขียว จึงได้เชิญพ่อปู่เทวานาคราช ร่างทรงจอมขมังเวทย์มาทำพิธีเบิกเนตร ใส่ฟันเสริมเขี้ยว ซึ่งเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ โดยร่างทรงที่มาทำพิธีนั่งทางในบอกว่า หินก้อนนี้เป็นพญานาคราชเดินทางมาโปรดสัตว์ ให้โชคลาภแก่ผู้นับถือและเคารพบูชา ก่อนจะเดินทางไปยังที่อื่นต่อ 
         หินเศียรพญานาคนี้ มีสีเขียว ความสูง 174 เซนติเมตร ฐานกว้าง 199 เซนติเมตร อยู่ภายในบ่อน้ำซึ่งมีน้ำตกไหลผ่าน ทำให้ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต่างมีความศรัทธา และความเชื่อกันไปต่างๆ นานา บางรายเชื่อว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากพญานาคต้องอาศัยอยู่ติดกับน้ำ จึงมีการเสี่ยงโชคขอเลขเด็ด รวมถึงมีการนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปส่องหาตัวเลข หรือเลขเด็ดจากเศียรพญานาคกันอย่างคึกคัก
        สำหรับหินนี้อยู่ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก บริษัท พราวออยล์ จำกัด เลขที่ 898 หมู่ 11 บนทางหลวงหมายเลข 321 ถนนมาลัยแมน ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บอกกันขนาดนี้คนจะไปมากขึ้นมั้ยนี่



"ถ้านาคา" จ.บึงกาฬ

        "ถ้ำนาคา" มีลักษณะทางธรรมชาติที่งดงามแปลกตา ทั้งพื้นผิวหน้าหินที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดงู รวมถึงรูปแบบของถ้ำที่คดเคี้ยวคล้ายงูยักษ์กำลังขดตัว ดูคล้ายพญานาคยักษ์กำลังขดตัวอยู่ในถ้ำ และยิ่งเดินออกมาด้านนอก พบหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวงูกำลังนอนหลับหรือก้มดื่มน้ำอยู่ ยิ่งทำให้ชาวบ้านเชื่อว่านี่เป็นหินศักดิ์สิทธ์ และยังมีเรื่องเล่าที่ไปเชื่อมโยงถึงตำนาน "พ่อปู่อือลือ" งูยักษ์ที่ถูกสาปกลายเป็นหิน และอีกหลากหลายความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับพญานาคเพราะที่ตั้งของถ้ำแห่งนี้อยุ่ใกล้กับแม่น้ำโขง ด้วยพลังความศรัทธาจึงทำให้คนไทยอยากไปสัมผัสถ้ำแห่งนี้
 
                                                        ตำนานปู่อื้อลือ
        เรื่องเล่าเกี่ยวกับปู่อือลือมีอยู่ว่า เป็นราชาที่ถูกสาปให้เป็นพญานาค ท่านโดนสาปทำให้เมืองล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลง ปู่อือลือจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อที่แห่งนี้เกิดเป็นเมืองใหม่ขึ้น ซึ่งในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นตรงกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของบึงกาฬ จังหวัดที่เกิดขึ้นใหม่

        ได้มีนักธรณีวิทยาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดถ้ำแห่งนี้ว่า เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ธรรมชาติทางธรณีวิทยา เรียกว่า "ปรากฏการณ์ซันแครก" หรือ "หมอนหินซ้อน" เกิดจากหินทรายเนื้อสม่ำเสมอขนาดใหญ่ขยายและหดตัวลงอย่างรวดเร็วเพราะอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันที่มีอากาศร้อนจัดและกลางคืนที่มีอากาศเย็นจัดในสมัยอดีตกาลจึงทำให้หินแตกเป็นเหลี่ยมๆลายๆบนผิวหน้าของหินจึงมีหินลักษณะเป็นลายเกล็ด คล้ายงู หรือ พญานาค จากการคำนวนแล้วหินทรายชนิดนี้มีอายุประมาณ 70 ล้านปี ถึงแม้ว่า "ถ้ำนาคา" แห่งนี้จะเกิดขึ้นเพราะปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ  แต่นักธรณีวิทยาและหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา ก็อยากจะฝากให้นักท่องเที่ยวอย่าทำลายธรรมชาติ ห้ามนำแป้งมาโรยขอหวย หรือ ขูดขีดทำลายหน้าหินในรูปแบบต่างๆ ไม่ควรนำมือไปลูบหรือสัมผัสไม่เช่นนั้นลวดลายเกล็ดพญานาคจะลบเลือนหายไป


        "ถ้ำนาคา"นี้ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ ทางอุทยานจะเปิดให้เข้าชม ได้วันละไม่เกิน 50 คน แบ่งเป็นรอบๆในช่วงนี้ และจะต้องจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน QueQ หากใครไปโดยไม่ทำการจองล่วงหน้าระวังไปเก้อนะ




"พญานาคเล่นน้ำ" สำนักสงฆ์ห้วยหินแหบ บึงกาฬ

    ร่องรอยพญานาคนี้มีลักษณะคล้ายกับส่วนหัวและลำตัวของพญานาคทอดยาวมาในแอ่งน้ำ ตัวหินพญานาคยังมีท่าทางคดเคี้ยว ดั่งงูที่กำลังเลื้อยอยู่ในแม่น้ำ บวกกับโลเคชันในบึงน้ำกลางหุบเขา ทำให้รู้สึกว่าเหมือนมีงูยักษ์กำลังเล่นน้ำอยู่จริงๆ ต่อมาจึงได้มีการเชิญครูบามาทำพิธีบรวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำพิธีกราบไหว้บูชา


        ทั้งนี้คนโบราณเรียกว่าหินแข่ (หินจรเข้) แต่ถ้ามองในอีกความเชื่อหนึ่งหินก้อนนี้ก็มีลักษณะเหมือนหินงูขนาดใหญ่หรือหินพญานาค โดยที่สำนักสงฆ์แห่งนี้มีรูปปั้นปู่ศรีสุทโธและย่าศรีประทุมมา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพญานาคที่ปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้อีกด้วย ใครอยากไปเที่ยวหรือไปชมความงดงามของหินนี้กันก็ไปดูได้เลยที่ สำนักสงฆ์ ห้วยหินแหบ บ้านโนนศิลา ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ





     "ไข่ พญานาค" อช. ภูลังกา นครพนม

         ไข่ยักษ์ขนาดใหญ่มีเกล็ดโดยรอบเหมือนเกล็ดงูดูสวยงาม เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็น ไม่ไกลกันยังพบก้อนหินรูปร่างคล้ายเศียรพญานาคอีก ชาวบ้านเชื่อเป็นเกล็ดพญานาค ทั้งนี้จุดที่เกิด ไข่พญานาคตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติ ภูลังกา จ.นครพนม และในพื้นที่ไม่ไกลกันนัก ยังเป็นที่ตั้งของถ้ำนาคี อ.บ้านแพง อีก1จุดท่องเที่ยวที่สวยงาม โดยเส้นทางตามรอยยังค้นพบจุดเชื่อมต่อกับถ้ำ นาคา จ.บึงกาฬ  ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก โดยระหว่างทางแวะชมหินผาเกล็ดงู สักพักจะพบหินรูปทรงคล้ายหัวพญานาคที่กำลังแผ่พังพานอีกด้วย จุดนี้เป็นจุดแวะพักสักการะที่คนนิยมมาก
         ไข่พญานาคนี้เป็นก้อนหินใหญ่ มีขนาดสูงกว่าคนเล็กน้อย พื้นผิวแตกนี้เกิดจากปรากฎการณ์ที่เรียกว่า "ซันแครก" (sun crack) ทำให้โขดหินมีรอยแตกคล้ายเกล็ดงู





                 "ถ้ำนาคี" อช. ภูลังกา นครพนม

        ตามรอยสำรวจจากไข่กันแล้ว ภายในอุทยาน พื้นที่ จ.นครพนมยังเป็นที่ตั้งของ "ถ้ำนาคี" เป็นถ้ำที่มีร่องหินผาลวดลายแปลก ดูเหมือนอย่างกับซอกหินนี้เคยถูกงูยักษ์เลื้อยพาดผ่านเป็นรอยเกล็ดพญานาคชัดเจน บวกกับสีเขียวจากธรรมชาติยิ่งทำให้ดูน่าทึ่งเข้าไปอีก


    จุดถ่ายภาพที่สำคัญ ดูเหมือนหัวพญานาคี กำลังขดตัว

    การทีถ้ำนาคาและถ้ำนาคีอยู่ไม่ไกลกันนัก ระหว่าง จ.นครพนมและ จ.บึงกาฬ (อดีตพื้นที่นี้อยู่ใน จ.หนองคาย) และ จ.หนองคายที่อยู่ติด แม่น้ำโขง จึงเป็นจุดเชื่อมต่อที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากท่องเที่ยวตามรอยพญานาคมาก

ภายในถ้ำพบรูปปั้นสักการะองค์พระปางนาคปรกและบ่อน้ำที่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมสักการะบูชาอีกจุดหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้