Funny game for your mobile

ตำนานถ้ำคริสตัลยักษ์ Cave of the Crystals ประเทศเม็กซิโก


Cave of the Crystals
        ที่รัฐ Chihuahua ประเทศเม็กซิโก (มีรัฐชื่อนี้ด้วย ) มีถ้ำแห่งหนึ่งที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ถ้ำคริสตัลที่ใหญ่ที่สุด" ที่นี่ถูกค้นพบโดยคนงานเหมืองแร่ของ บริษัทผู้ผลิตตะกั่วรายใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ที่ไปสำรวจบริเวณรอบๆขณะการทำเหมืองเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว โดยพวกเขาได้ระเบิดเหมืองเพื่อทำอุโมงค์ และพบถ้ำคริสตัลนี้ที่ตำแหน่งลึกลงไปใต้ดินกว่า 300 เมตร 
        สาเหตุที่ถ้ำนี้เป็นถ้ำคริสตัลที่ใหญ่ที่สุดเนื่องมาจากในถ้ำแห่งนี้มีแร่คริสตัลอยู่เยอะมากอย่างไม่น่าเชื่อ คริสตัลเหล่านั้นล้วนมีขนาดใหญ่มากกว่า 12 เมตร ถือว่าเป็นขนาดที่น่าทึ่งมากๆ โดยแท้จริงแล้วถ้ำคริสตัลแห่งนี้เกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ และแร่ผลึกนั้นก็คือซีลีไนด์หรือว่ายิปซัม ที่ก่อตัวขึ้นมานานนับพันปีแล้ว และก่อตัวสะสมมาเรื่อยๆกว่าจะมีรูปร่างเช่นนี้



ตำนานถ้ำยักษ์
         นานมาแล้วมีชาวนาผู้ยากจนคนหนึ่งเดินทางอยู่ในป่า  ครั้นเมื่อมาถึงใจกลางป่า เขาพบเด็กหญิงที่กำลังจะจมน้ำในแม่น้ำ เขาไม่รีรอ กระโดดลงไปช่วยเธอทันที  ทันทีที่เธอได้ขึ้นฝั่งกลับพบว่าเธอไม่ใช่เด็กหญิงธรรมดา ร่างของเธอก็พลันมีแสงสว่างขึ้นและลอยขึ้นอยู่กลางอากาศ เธอบอกว่า “ฉันคือเทพธิดาแห่งดวงดาว ฉันอยากตอบแทนบุคคลผู้ใจดี” เหมือนฟ้ามาโปรดชาวนาผู้โชคดี เทพธิดามอบของตอบแทนเป็นคริสตัลที่สีขาวสว่างไสวให้แก่ชาวนาเป็นจำนวนมาก ชาวนาดีใจอย่างล้นเหลือ เขากลัวว่าจะมีคนมาแย่งไป เขาจึงขอร้องเทพธิดา "ของมากมายเช่นนี้ ข้ารับไว้ไม่ไหวหรอก อย่างน้อยข้าต้องการที่เก็บ" เทพธิดาได้ฟังดังนั้นก็บอกว่า "ได้สิ ฉันจะทำถ้ำไว้ให้ เจ้าจะได้ซ่อนสมบัติเอาไว้ และเข้ามาดูได้ทุกเมื่อ"  ชาวนาก็ดีใจ เขามักจะมาเยือนถ้ำนี้อยู่เสมอเพื่อมาดูสมบัติของตน ในถ้ำนี้ไม่มีร่องรอยของผู้มาเยือน และไม่มีใครรู้ว่าถ้ำนี้อยู่ที่ใด  ภายในถ้ำตอนนี้นั้นมีคริสตัลที่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ละชิ้นมีขนาดเล็กใหญ่ต่างกันไป บางก้อนมีขนาดที่ใหญ่กว่า 15 เมตร ขึ้นหนาแน่นอยู่ภายในถ้ำ เมื่อมีแสงอาทิตย์ส่องพวกมันส่องประกายแสงสีขาวระยิบระยับ ชาวนาแม้จะพาคริสตัลกลับไปไม่ได้ แต่เขาก็พอใจ 
     เมื่อเวลาผ่านไป ชาวนาผู้นั้นแก่ตัวลงและความจำเริ่มเลอะเลือน จนกระทั่งวันสุดท้ายก็มาถึง เขากำลังจะตาย จึงเรียกญาติทุกคนมาเพื่อจะบอกที่ตั้งของถ้ำ แต่ความทรงจำกลับสูญสิ้นไปหมดแล้ว สุดท้ายคริสตัลเหล่านั้นจึงถูกฝังไว้ในถ้ำตลอดกาล





สาเหตุที่ทำให้คริสตัลมีขนาดใหญ่และคงรูปร่างสวยงาม
    สาเหตุที่ทำให้มีคริสตัลขนาดใหญ่เช่นนี้ พบว่าเหมือง Naica แห่งนี้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนของเปลือกโลกมาในอดีตกาล ด้านล่างถ้ำเต็มไปด้วยหินหนืดใต้ดิน และเมื่อหินหนืดเหล่านี้ทำให้น้ำร้อนระเหยขึ้นมา เมื่อน้ำจากใต้ดินมาผสมกับความร้อนและชื้นในถ้ำ ในน้ำมีแร่ธาตุรวมทั้งยิปซัมจำนวนมาก และถ้ำที่เต็มไปด้วยพื้นที่กลวงบวกกับน้ำร้อนที่อุดมด้วยแร่ธาตุนี้ จึงก่อตัวขึ้นเป็นคริสตัล และยังคงอยู่เเบบนี้ไปได้เรื่อยๆอีกประมาณ 500,000 ปี ในช่วงเวลานี้อุณหภูมิของน้ำก็ยังคงมีความเสถียรภาพมากพอ ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนกว่า 50 ° C (นั่นคืิอมีความชื้น 100 เปอร์เซ็นต์! ) สิ่งนี้เกิดขึ้นมานานกว่าล้านปีแล้ว ทำให้คริสตัลสามารถก่อตัวขึ้นได้และเติบโตจนมีขนาดใหญ่โตเช่นนี้





    แต่ถึงจะสวยงามน่าเดินชมขนาดไหน ถ้ำนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับการไปผจญภัยนานๆ เนื่องจากสภาพแวดล้อมในถ้ำนี้ไม่เหมาะสำหรับผูัคนจะอยู่อาศัยหรือมาเที่ยวเล่นได้ ถ้ามีใครคนไหนเข้าไปอยู่ในถ้ำโดยไม่มีเครื่องมือช่วยเหลือใดๆก็จะอยู่ได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น เพราะอากาศที่ร้อนจัดถึง 59 องศาเซลเซียส รวมไปถึงความชื้นกว่า 90% ผู้มาเยือนจึงต้องเตรียมตัวนำอุปกรณ์ ฉุกเฉินไว้ให้พร้อม เอาเป็นว่าแค่เข้าไปชมความสวยงามของคริสตัลก็น่าจะคุ้มค่าแล้ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้