Funny game for your mobile

รู้จักเหนียนอสูรผู้กลัวสีแดง และปะทัด

         วันตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า “กว้อชุนเจี๋ย” หรือ “กว้อเหนียน” เป็นวันสำคัญที่ผู้คนมีกจะเฉลิมฉลองใส่เสื้อผ้าสีแดง ประดับประดาบ้านเรื่อน กราบไหว้ขอพรพร้อมทั้งมีการจุดปะทัดหน้าบ้าน เพื่อป้องกัน "เหนียน" มีใครรู้จักเจ้าตัวนี้กันบ้าง มารับฟังเรื่องราวกำเนิดวันตรุษจีน และ ตำนานของมันกัน



        มีเรื่องเล่ากันว่า ในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง ที่ถูกเรียกว่า “เหนียน” มันเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายสิงโต ที่หัวมีขนรุงรัง แต่ลำตัวใหญ่กว่าสิงโตถึง 2 เท่า มีเขี้ยวที่ยาวและคม ดุร้ายเป็นอย่างมาก มันอาศัยในทะเลลึกเป็นเวลายาวนาน ถึงเวลาหิวมันจะออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ จนในที่สุดพระเจ้าจึงลงโทษมัน โดยคำสาปทำให้แข็งกลายเป็นหิน แต่คำสาปนั้นก็มีข้อยกเว้นโดยทุกๆปี คำสาปนั้นจะคลายลง มันสามารถกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งก่อนที่คำสาปจะเริ่มต้นใหม่ มันจะออกล่า



        ดังนั้นเมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน และเพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุกๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน
    ในวันนี้ โชคร้ายก็มาเกิดแก่ครอบครัวของตายาย เมื่อยายต้องเดินทางไกลไปจากหมู่บ้านเพื่อไปหายามาดูแลตาที่ไม่สบาย เมื่อยายกลับมาก็พบว่าปิศาจเหนียนนั้นได้เดินทางมาจากถนนที่บ้านของตน ยายตกใจมากรีบวิ่งไปซ่อนที่บ้านของเพื่อนข้างบ้าน เหนียนที่บ้าคลั่งได้กระแทกบ้านเรือนผู้คน จนได้ยินเสียงประตูถูกกระแทกดังลั่น ยายนึกเป็นห่วงว่าบ้านของตนจะเป็นอะไรมั้ย และเมื่อถึงเช้าวันถัดมา มันเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุกๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก เหนียน ทำร้าย และยายก็เช่นกัน เธอเดินออกมาจากบ้านก็พบซากที่ชำรุดทรุดโทรม และเสาบ้านที่ล้มแตกหักจากแรงทำลายของสัตว์ร้าย รวมถึงบ้านของยายก็เช่นกันมันถูกทำลายไม่เหลือซาก ปิศาจร้ายทำลายบ้านไปเสียสิ้น ทิ้งเหลือไว้แต่ซากปรักหักพัง แม้แต่รางของตาก็สูญหายไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย ยายเห็นดังนั้นก็ร่ำไห้ ปริ่มจะขาดใจ ต่อมาเพื่อนบ้านก็เข้ามาช่วยเหลือ ทำบ้านให้ใหม่ แต่ก็เป็นบ้านเล็กๆ และไม่ได้แข็งแรงนัก พออยู่อาศัยได้



        ดังนั้นพอถึงวันสิ้นปีของทุกปี ผู้คนในหมู่บ้านบนภูเขาต่างก็อุ้มลูกจูงหลานเข้าไปในหุบเขาลึก เพื่อซ่อนตัวไม่ให้ปีศาจ เหนียน มาทำร้าย มี ‘ชายแก่ขอทาน’ เคราขาว คนหนึ่งมาจากนอกหมู่บ้าน เดินทางเข้ามายังหมู่บ้านนี้ ในขณะที่ทุกคนต่างตกอยู่ในภาวะรีบร้อนหวาดกลัว จึงไม่มีใครสนใจชายแก่ขอทานคนนี้ มีเพียง ‘ยาย’ ที่พบเห็น เธอให้อาหารแก่ชายแก่ พร้อมแนะนำให้รีบขึ้นเขาไปซ่อนตัวจากปีศาจ เหนียน ชายแก่ผู้นั้นกลับไม่มีทีท่า สีหน้าเกรงกลัวอะไรเลย พร้อมกล่าวว่า “หากแม้นว่าท่านให้ข้าพักที่นี่หนึ่งคืน ข้าจะขับไล่ปีศาจเหนียนให้ท่าน” ยายแก่มองเขาด้วยความสงสัย แต่ด้วยเวลาเร่งรีบที่ต้องเดินทางขึ้นเขาไปหลบภัย ยายแก่จึงไม่มีทางเลือก และจำต้องทิ้งบ้านขึ้นเขาไปหลบภัย
        พอถึงเที่ยงคืน ปีศาจเหนียนก็ตรงดิ่งมายังหมู่บ้าน มันพบว่า บรรยากาศในหมู่บ้านไม่เหมือนกับทุกปี บ้านของยายแก่คนนั้นทางด้านตะวันออก บนประตูแปะกระดาษสีแดง ในบ้านจุดเทียนสว่างไสว ปีศาจเหนียนเริ่มตัวสั่นไปหมดทั้งร่าง พร้อมส่งเสียงร้องออกมา ปีศาจเหนียนหันไปจ้องเขม็งยังบ้านของยายแก่ชั่วครู่ ทันใดนั้นมันก็วิ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง พอเข้าไปใกล้ประตู ภายในบ้านก็มีเสียงประทัดดัง “ปัง ปัง” ขึ้นมา ทำให้ปีศาจเหนียนตัวสั่นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และไม่กล้าเข้าไปใกล้อีก
    เช้าวันถัดมาผู้คนที่มีลูกหลานที่ต้องลี้ภัย กลับมาพบเห็นบ้านยังสงบดีอยู่ ไม่มีร่องรอยการโจมตีเหมือนทุกปีก็รู้สึกแปลกใจ ยายแก่สำรวจบ้านตัวเองก็เชื่อว่ากระดาษสีแดง แสงไฟ เสียงปะทัดคือสิ่งที่จะทำให้มันหวาดกลัวได้จึงนำไปบอกชาวบ้าน ชาวบ้านแรกๆก็ไม่เชื่อแต่อย่างใด แต่เมื่อยายพาไปดูร่องรอยกลับพบว่า มีบ้านยายอันเป็นบ้านเล็กๆที่สร้างด้วยไม้ผุๆ กระแทกเบาๆก็พังราบแล้วกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว โดยหน้าบ้านต่างมีโคมไฟ จุดเทียนไว้และกระดาษแดงที่มีรอยเผาไหม้หลงเหลืออยู่ ชาวบ้านจึงลองทำตามดู



        ต่อมาพบว่า เมื่อถึงวันที่เหนียนจะกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้ ผู้คนก็จะพร้อมใจกันใส่ เสื้อสีแดงฉูดฉาดจุดไฟบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน ต้องเผ่นหนีไป ยังหมู่บ้านอื่น ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำให้ผู้คนในแต่ละหมู่บ้านรู้วิธีกำจัด เหนียน ได้ในที่สุด
        เมื่อวันตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุกๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเหนียนมาถึงในตอนเย็น มันมาเห็นทุกๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุกๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน ต่อมา วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็นวันเฉลิมฉลองที่มีแต่ความสุขที่เรียกกันว่า “วันตรุษจีน”
        ส่วนเรื่องราวต่อจากนั้นมีเรื่องเล่าว่า ชายแก่ขอทานคนนั้น คือ ‘เง็กเซียนฮ่องเต้’ ที่แปลงกายลงมาเพื่อบอกวิธีการปราบปีศาจเหนียน ให้กับชาวบ้านนั่นเอง จึงเป็นที่มาของตำนานที่ว่าทำไมวันตรุษจีน ผู้คนต่างต้องใส่เสื้อสีแดง ประดับโคมไฟสีแดง และจุดประทัดกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้