ตำนานสระแก้ว เป็นนิทานพื้นบ้านภาคตะวันออกที่เป็นตำนานเกี่ยวกับบ่อน้ำศักด์สิทธิ์ ซึ่งสระแก้ว เป็นชื่อหมู่บ้านที่อยู่ใน ต.เขาพลอยแหวน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี มีวัดประจำหมู่บ้าน โดยเรียกวัดนี้ว่า วัดสระแก้ว ใครได้ยินชื่อ สระแก้ว ถ้าอยากไปชม สระแก้ว ให้ไปจันทบุรีนะ ไม่ได้อยู่จังหวัดสระแก้วนะบอกให้ ที่นี่มีบ่อน้ำที่พิเศษ น้ำนั้นใสสะอาด และไม่แห้งมาจนทุกวันนี้ ที่นี่อยู่ในการดูแลของเทศบาล และมีการสร้่างอาคารทำรั้วรอบขอบชิด เพื่อรักษาบ่อน้ำแห่งนี้เอาไว้ ความพิเศษของที่นี่นั้นเรื่องเล่าขานมีอยู่ว่า สระแก้วนี้นอกจากจะมีน้ำใส สรรพคุณวิเศษเป็นยารักษาโรคได้สารพัดนึก มีประวัติเล่าขานกันมานานแล้ว และน้ำณ. แห่งนี้ถูกนำไปใช้ในพิธีสำคัญด้วย
ที่แห่งนี้มีตำนานเช่นกัน เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า
มีภูเขาเตี้ย ๆ ลูกหนึ่ง บนยอดเขาแห่งนี้มีสระน้ำ น้ำแห่งนี้ใสสะอาดมาก อีกทั้งเมื่อดื่มก็เย็นชื่นใจ ในที่ใกล้กันนั้นเอง มีตายายสองคนผัวเมียคู่หนึ่งด้วย ทั้งสองปลูกบ้านอาศัยอยู่ที่ตีนเขา ทั้งสองเป็นคนยากจน ใช้ชีวิตอยู่อาศัยเก็บผัก เก็บฟืนขาย บางวันหาของไม่ได้ก็ต้องแลกเปลี่ยนข้าวปลาอาหารกับชาวบ้าน บางครั้งก็ล่าสัตว์เล็กๆ เท่าที่หาได้ตอนนั้นมาทำอาหาร นอกจากความจนแร้นแค้นแล้ว ตายายทั้งสองนี้ยังเป็นโรคเรื้อน มีเป็นแผลพุพองเต็มร่างกาย มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มอยู่ตลอดเวลา รักษาไม่หาย โรคเรื้อนนี้ถ้าเป็นขั้นร้ายแรง มีผลทำให้พิการได้เช่นกัน
อยู่มาวันหนึ่ง ตาล่ากระต่ายได้ตัวนึง มันบาดเจ็บวิ่งหายเข้าไปในเขา ตาติดตามร่องรอยไปจนถึงยอดเขา เจ้ากระต่ายยังมีเรี่ยวแรง พอตาวิ่งไล่ กระต่ายมันก็กระโดดลงไปในสระน้ำนั้นทันทีด้วยความตกใจ ตาตามไปดู แต่จู่ๆกลับพบสิ่งอัศจรรย์ กระต่ายตัวนั้นกระโดดขึ้นจากสระได้ปลอดภัย อีกทั้งบาดแผลก็หายสนิท ร่องรอยบาดแผลที่ตัวมันหายไปหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ตาเห็นดังนั้นเลยลงไปสำรวจบ่อน้ำ เมื่อลงไปแช่น้ำในสระ กลับพบว่าร่างกายที่เป็นแผลพุพองต่างๆก็หายไปสิ้น น้ำเหลืองที่เคยไหลเยิ้มก็แห้งสนิท ตาดีใจมาก เขารีบกลับบ้านมาที่กระท่อมเพื่อบอกยาย และเมื่อพายายไปอาบน้ำในสระแล้ว แผลพุพองของยายก็หายด้วยเช่นเดียวกัน ในไม่ช้าข่าวนี้ก็กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนข่าวนี้รู้ถึงหูท่านเจ้าเมือง จากนั้นไม่นานเจ้าเมืองและผู้ติดตามก็พากันมาดูชม เพื่อพิสูจน์ความอัศจรรย์แห่งบ่อน้ำวิเศษ
เมื่อพิสูจน์บ่อน้ำวิเศษได้เรียบร้อยแล้วทางเจ้าเมืองก็รีบรายงานไปยังเมืองหลวง แจ้งให้ทราบว่าได้พบสระน้ำวิเศษขึ้นที่นี่ ภายหลังเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจว่าเป็นพราหมณ์ ทางราชสำนักจึงกำหนดให้น้ำสระแก้วแห่งนี้ไปรวมกับน้ำศักดิ์สิทธ์จากแหล่งอื่นๆทั่วราชอาณาจักร สำหรั บทำเป็นน้ำมนต์สำหรับใช้ในงานพระราชพิธี
กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป สระน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ก็ยังน้ำอยู่ น้ำในสระยังไม่แห้งและมีชื่อเรียกว่า “สระแก้ว” บางคนก็กล่าวว่าเพราะน้ำใสประดุจดังแก้ว แต่บางท่านก็ว่าในสระเคยมีแก้วรัตนชาติอยู่ในสระนี้และในปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว
สระแห่งนี้มีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 7 เมตร น้ำจากสระแห่งนี้ได้เข้าพระราชพิธีมูรธาภิเษกในงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ นับตั้งแต่รัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาทุกรัชกาล กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ.2530 และถ้าใครอยากมาเยี่ยมชมก็สามารถมาได้ไม่ยาก จากตัวเมืองจันทบุรีเดินทางประมาณ 11 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น