ถ้าพูดถึงผีล้านนา หลายคนคงจะนึกถึงผีกะเป็นอันดับแรกๆ นั่นเพราะเขาร่ำลือกันว่า ผีกะนี้นิยมเลี้ยงกันมากโดยเฉพาะคณะลิเก พวกนักดนตรี หรือพวกงานการแสดง เพราะน้ำลายของพวกมันทำให้คนผู้นั้นสวยขึ้นผิดหูผิดตา ที่เกาหลีคงต้องมาดูงานที่บ้านเราเสียแล้ว หากอยากสร้างความสวยงามในรูปแบบใหม่ๆ ผีพวกนี้ว่ากันว่าคล้ายผีปอบ ให้คุณและโทษ แน่นอนว่าถ้าไม่มีดีอะไรคงไม่มีใครพาเข้าบ้าน แต่ถ้าเลี้ยงผี แบบปล่อยให้ผีกะอด ๆ อยาก ๆ มันก็จะทำให้เจ้าของกลายสภาพเป็นกึ่งคนกึ่งภูติ กินตับไตไส้พุงและกินไก่ ถึงแม้จะน่ากลัวขนาดนี้ก็ยังมีคนที่อยากจะแลก มาดูกันว่าผีกะนี้มีจำพวกแล้วใครบ้างอยากเลี้ยงผีกะ
ผีกะคน เป็นผีพื้นบ้านทางภาคเหนือ ผีพวกนี้จะมีลักษณะคล้ายผีปอบ คือเข้าสิงในคน และชอบกินของสดของคาว ชอบกินลาบก้อย หรือซอยจุ๊ ในภาคอิสานดิบๆเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ทางเหนือเวลาเห็นใครเปิบของดิบๆ นั่งกับพื้นอาจถูกมองเป็นผีกะก็ได้ ส่วนผีกะดูคล้ายวอกหรือค่าง ตัวเล็ก ๆ แต่เดิมคนที่เริ่มนำมาเผยแพร่ คือพวกลิเก หรือพวกนักดนตรี ที่แสดงการละเล่น เรียกว่าผีกะพระ-นาง หากใครเลี้ยงไว้ไม่ว่านักแสดงจะขี้เหร่แค่ไหน พอตกกลางคืนมันจะเลียหน้า ทำให้ยิ่งดึกยิ่งงดงาม คนเลี้ยงจึงต้องรู้วิชาอาคม ผีกะจะถูกเลี้ยงไว้ในหม้อดิน โดยมีผ้ายันต์สีขาวปิดปากหม้อไว้ โดยจะวางไว้บนเพดานบ้าน เจ้าของจะเซ่นผีกะด้วยไข่ดิบวันละฟอง ซึ่งต้องให้มันอยู่เสมอๆ อย่าปล่อยให้มันอดอยาก มิเช่นนั้นจะกลับมาทำร้ายเจ้าของ บ้านไหนมีนักแสดงก็จะใช้ผีกะนี่แหล่ะ เรียกคนดูให้มาชม ทำให้คนดูหลงใหลในการแสดงของนักแสดงคนนั้น ๆ แม้ว่ากลางวันจะขี้เหร่แค่ไหน แต่ตอนกลางคืนผีกะสามารถทำให้นักแสดงคนนั้น ๆสวยหรือหล่ออย่างเทพตกสวรรค์กันเลยทีเดียว ผีกะชนิดนี้เรียก ผีกะ พระนาง
เนื่องด้วย มันเป็นผีที่มีลักษณะเหมือนปอบ จึงมีคำบอกเล่าของคนแก่คนเฒ่าที่เกี่ยวกับมันอยู่เยอะมาก พวกมันมีหลายชนิดบางทีก็อยู่ในรูปแบบของผีกะดง พวกนี้ดุร้าย ว่องไว มักออกหากินเป็นฝูงในยามพลบค่ำ กินคนด้วยนะ ดึกๆเราอาจแยกหมาป่ากับกะไม่ออกก็เป็นได้ นำ้ลายเจ้าพวกนี้มีสรรพคุณทางยา สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ทุกชนิด ทำให้ร่างกายมีความคงกระพันชาตรี หากใครเจอผีเหล่านี้ดึกๆ ถ้าไม่ถูกเลียหน้ารักษาบาดแผลก็กลายเป็นอาหารค่ำของพวกมันไป เคยมีเรื่องเล่าว่า ชายหนุ่มถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเพราะไปรักกับลูกสาวของคหบดีในตัวเมือง เมื่อถูกทิ้งไว้กลางป่าแทนที่จะถูกผีกะกิน แต่กลับไปทำสัญยากับพวกมันว่าจะขอนับถือผีกะเป็นผีประจำตระกูล พวกมันก็เลียหน้าเลียตารักษาบาดแผลให้ จนชายหนุ่มหายดีแล้วกลับไปงานแต่ง บุกบ้านเจ้าสาว แถมคราวนี้มีผีกะเป็นพรรคพวก เหล่าผีกะก็รุมทำร้ายบ้านเจ้าบ่าวซะพังพินาศ แถมหัวหน้าผีกะยังให้ทองคำและสมบัติที่พวกตนเฝ้ารักษาไว้ แก่ชายหมุ่ม
นับว่าดวงเฮงจริงๆ ด้วยเหตุนี้ผีกะจึงเป็นผีที่คนสนใจและอยากจะเอามาเลี้ยงดู ซึ่งผีกะมีทั้งกะตามป่าเขา กะดงแบบร่อนเร่ หรือผีกะตระกูล ที่ทั้งบ้านเลี้ยงกันหมด เพราะผีกะให้คุณต่อผู้เลี้ยง ว่ากันว่า บ้านไหนเลี้ยงผีกะ ให้ดูนาของบ้านนั้น ๆ ไม่ว่านานั้นจะอยู่ที่ดอนหรือที่ลุ่ม ไม่ว่าฝนจะแล้งหรือฝนจะขาด นาของบ้านที่เลี้ยงผีกะจะอุดมสมบูรณ์เสมอ ไม่มีแมลงมากวน ไม่มีโรคระบาด ผีกะชนิดนี้เลี้ยงดีมีคุณมาก ถ้าเลี้ยงไม่ดีผีจะออกหากินสิงสู่ชาวบ้าน เมื่อโดนหมอผีไล่ มันก็จะประจานผู้เลี้ยงทำให้อับอายขายขี้หน้าชาวบ้าน
ผีกะเองก็มีฑูตมาเยือนเช่นกัน ทูตเป็นนกเค้าแมว สังเกตได้ง่ายว่าหากจะมีผีกะมาเยือนหมู่บ้านไหน กลางคืนคืนนั้นจะมีนกเค้าแมวมาร้องดังไปทั่วหมู่บ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น