มาทำความรู้จักที่นี่เพิ่มขึ้นอีกนิด อ่าวฮาลอง หรือ ฮาลองเบย์ (Hạ Long Bay) เป็นส่วนหนึ่งของ อ่าวตังเกี๋ย (Gulf of Tonkin) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ไม่ไกลจากกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามนัก มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีเกาะหินปูนน้อยใหญ่ขึ้นอยู่ตามอ่าวกว่า 1,969 เกาะ อีกทั้งยังมีบริเวณชายฝั่งยาวถึง 120 กิโลเมตรอีกด้วย ทัศนียภาพอันน่าอัศจรรย์ใจ และธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติครับ
ฮาลองเบย์ในภาษาเวียดนามมีชื่อว่า Vinh Ha Long หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง" ซึ่งมีตำนานที่เล่าขานถึงยุคสงครามในอดีตก่อนการรวมแผ่นดินเวียดนาม เวลานั้นเวียดนามได้สู้รบกับกองทัพจีนที่กำลังบุกเข้ามายังดินแดนแห่งนี้แล้ว ในระหว่างนั้นเทพเจ้าก็ได้ส่งมังกรยักษ์มาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนามด้วยการด่ำดิ่งสู่ท้องทะเล พร้อมกับปล่อยอัญมณีขึ้นมาเป็นเกาะต่างๆ เพื่อสร้างขึ้นเป็นเกราะกำบังไม่ให้ข้าศึกเข้ามาโจมตีได้ ทำให้เวียดนามสามารถปกป้องแผ่นดินได้สำเร็จ และรวบรวมแผ่นดินเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนับแต่นั้นมา
กาลครั้งหนึ่งมีมังกร ตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนสรวงสรรค์ และดินแดนนั้นก็คร่อมทับกับบริเวณเหนืออ่าวฮาลองพอดิบพอดี เปรียบดั่งที่นี่ก็คือ ดินแดนที่มีเทพปกปักรักษาอยู่นั่นเอง ครั้นมีผู้รุกรานจากต่างแดน มังกรก็จะตื่นขึ้นจากฟากฟ้า ตามตำนานว่านี่เป็นมังกรเทพที่เป็นบริวารของเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์
ครั้งหนึ่งชาวกองทัพเวียดนามถูกกองทัพของจีนไล่ต้อนจน เรือรบขนาดเล็กต่างพ่ายแพ้ ถูกจมหายด้วยพลังปืนใหญ่จากเรือรบข้าศึกที่มีขนาดใหญ่กว่า กองทัพบุกไล่ยิงจนต้องล่าถอยมาที่อ่าวฮาลองเบย์ ชาวเวียดนามที่หวาดกลัวต่างอ้อนวอนขอให้สวรรค์ช่วยเหลือ เมื่อเทพได้รับคำขอก็ได้ขอร้องให้มังกรช่วยเหลือชาวเวียดนาม โดยเจ้ามังกรตัวนี้เป็นมังกรเทพ ทันทีที่มันปรากฎตัวขึ้นจากฟากฟ้า มันก็ได้บินอยู่เหนือน่านฟ้า ข่มขู่กองทัพฝ่ายข้าศึก กองทัพระดมยิงปืนใหญ่ขึ้นฟ้า ก็ไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด มันร่ายรำบนฟากฟ้าก่อนจะพุ่งดิ่งลงสู่ท้องทะเล เกิดเป็นคลื่นใหญ่ ซัดเอาก้อนหินริมฝั่งกระเด็นไปซัดกองเรือคู่อริ จนล่าถอยออกมา
เมื่อกองเรือข้าศึกต่างปักหลักล้อมเกาะอยู่นั้นเอง ต่อมาก็เริ่มมีทีท่าจะบุกโจมตีอีกครั้ง ต่างหันหัวปืนใหญ่เล็งเป้าไปที่กองเรือของเวียดนามอีกครั้ง พร้อมทั้งกองทัพแล่นเรือเข้ามา แต่แล้วจู่ๆก็เกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้น มีก้อนหินขนาดเท่าอัญมณี กระจายขึ้นมาจากใต้ท้องทะเล มันกระจัดกระจายออกไปในทิศทางต่างๆกัน แสงสะท้อนของอัญมณีส่องประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ เป็นสีรุ้ง สีแดง สลับกันไปมา จากนั้นก้อนหินนั้นก็ขยายตัวขึ้นเกิดเป็น เกาะใหญ่น้อย กลายเป็นปราการขวางกั้นไม่ให้กองทัพเรือของจีน ข้ามฝั่งมาได้โดยง่าย
จากนั้นกองทัพเรือก็ได้อาศัยแนวหิน จากเกาะพวกนี้เป็นโล่กำบัง และโจมตีตอบโต้จนกองทัพศัตรูล่าถอยไปได้ในที่สุด ชาวเวียดนามจึงรอดพ้นจากภัยอันตรายมานับแต่นั้นมา
โดยความเชื่อของชาวเวียดนามมองว่ามังกรเป็นสัตว์มงคลคล้ายๆกับจีน วัฒนธรรมชาวเวียดนามเชื่อว่ามังกรนั้นทำหน้าที่ปกป้องผู้คน ดังนั้น เมื่อมองภาพถ่ายทางอากาศของอ่าวฮาลอง คนเวียดนามก็เลยจินตนาการและมองว่า เกาะแก่งน้อยใหญ่นั้นดูคล้ายมังกรที่คอยปกป้องชาวเมืองให้ปลอดภัย แม้โดยแท้ที่จริงแล้วเกาะแก่งน้อยใหญ่ที่ดูคดเคี้ยวเหล่านี้ จะเกิดจากการกัดกร่อนของน้ำทะเลก็ตาม
เกาะแก่งต่างๆในอ่าวฮาลอง ที่นี่ไม่อนุญาตให้คนเข้าไปอยู่อาศัย เกาะจึงกลายเป็นสวรรค์ของบรรดานกนานาพันธ์ เป็นแหล่งที่อยู่ของนกนานาชนิดอย่างเช่น อินทรี ที่มีเหยื่อให้กินตลอดทั้งปีจากท้องทะเล
การเดินทางไปอ่าวฮาลอง สะดวกที่สุด คือ จากเมืองหลวงฮานอย มีรถบัสโดยสาร ใช้เวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง หรือรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง
ด้วยความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ดังนั้นในตัวเมืองฮานอย ก็มีแพ็คเกจทัวร์ ท่องเที่ยวไปยังฮาลองเบย์ให้เลือกมากมาย
กิจกรรมไฮไลท์ของการมาเที่ยวชมฮาลองเบย์คือ ล่องเรือชมทัศนียภาพอันงดงามของเกาะต่างๆ เช่น เกาะกัดบา (Cat Ba Island) เกาะต่วนเจิว (Tuan Chau) เกาะช้าง เกาะไก่ชน เกาะหลังคา และแวะชม ถ้ำสวรรค์ (Thiên Cave) หนึ่งในไฮไลท์ของฮาลองเบย์ที่มีโถงขนาดใหญ่ 3 ห้อง มีหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตาประดับประดาอย่างสวยงาม
ทั้งรูปทรงเต่ายักษ์ และ นางฟ้า เมื่อกระทบกับแสงสีที่นำมาประดับตกแต่งก็ทำให้เห็นลวดลายประติมากรรมที่เกิดจากธรรมชาติได้อย่างชัดเจน
นอกจากล่องเรือแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยคือ การนั่ง Queen Cable Car กระเช้าลอยฟ้า 2 ชั้น ที่สามารถจุคนได้เยอะที่สุดในโลก แถมยังมีเสาคอนกรีตส่งกระเช้าที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงถึง 188.88 เมตรอีกด้วย กระเช้าลอยฟ้าแห่งนี้จะพาเราขึ้นจาก สวนสนุก Sun World Halong Park ไปยัง ภูเขา Ba Deo ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sun Wheel ชิงช้าสวรรค์บนยอดเขา ให้เราได้ชมวิวฮาลองเบย์ได้จากมุมสูง เป็นการเปิดประสบการณ์ขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใครสุดๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น