![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEggPeqg98wW1J2-PdI86Enu9rx6ZxoGwQRQugUKnx1y3Mw2po3PSIvyrwh2Smv7BlQ1EUHoCUKeNQGMCd-CGYol-ASPL3gp9chPLrQNamy9ZpKjjwLo2HHDaSsMaF6DHf_hPPbg-wuH7fME/s640/oculus-link-mark-zuckerburg-1024x640.jpg)
สำหรับสายที่ว่าจะจะเป็นสายเชื่อมต่อแบบ USB 3 Type-C ซึ่งจะต้องเสียบเชื่อมกันระหว่าง PC กับ Oculus Quest โดยตัว PC จะต้องมีโปรแกรมที่รองรับการเชื่อมต่อของตัวแว่น ซึ่งจะมีโปรแกรมที่เป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์บน PC โดยที่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลผลก่อนที่จะเข้ารหัสและส่งไปยังตัวแว่นก่อนที่จะถูกถอดระหว่างออกมาเป็นภาพและเสียง เพื่อแสดงผลขึ้นไปบนแว่นต่อไป และแน่นอนว่าคุณภาพของภาพที่แสดงผลนั้นก็อาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับแว่นที่เชื่อมต่อกับตัว PC อยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นอีก 1 ทางเลือกที่ค่อนข้างหน้าสนใจ โดยเฉพาะใครที่มี Oculus Quest และอยากจะเล่นเกมที่วางจำหน่ายเฉพาะบน PC อย่างเดียว ก็ไม่จำเป็นจะต้องซื้อแว่นอื่นๆ เพิ่มในราคาหลายหมื่นบาท เพียงแค่มีสายตัวนี้เพียงเส้นเดียวก็สามารถเข้าถึงประสบการณ์แบบ PC ได้แล้ว
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKHKE6awOAW_zlfCpuuGpCRxjB2OEmIpZQZl89uWYvU40AqYMEJGsL2GZ7VNOHPLt6y2mbPUnxVCvDd24jftwrLCjd4Ec8hU9Oowy5sRWXp1tJywnTvL0Z3WF6ReIMAeh-UulLPpbn3ZfP/s640/oculus-link-usb-type-c-1024x576.png)
สำหรับปัจจุบันนี้ PC และผู้พัฒนา Mainboard หลายเจ้าก็มีการใส่ USB 3 Type-C เข้าไปให้อยู่แล้วและเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะยังไม่เคยใช้งานพอร์ตนี้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยความสามารถในการรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วที่สูงกว่าช่อง USB Type-A ก็น่าจะทำให้ภาพและเสียงนั้นไม่เกิดอาการกระตุกหรือหน่วงอย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดเครื่องของใครไม่มีก็อาจจะต้องหาหัวแปลงสายมา ซึ่งอาจจะทำให้สัญญาณภาพและเสียงเกิดอาการกระตุกได้ในอนาคต ดังนั้นแล้วถ้าใครมี Oculus Quest และต้องการใช้งานแบบนี้ก็อย่าลืมตรวจเช็คอุปกรณ์ของคุณว่ามีพอร์ต Type-C หรือไม่ด้วยนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น