Funny game for your mobile

ตำนานถ้ำเขาขนาบน้ำกับกระบี่อัศจรรย์

         กระบี่มีเสน่ห์ทางธรรมชาติทางทะเล มีเกาะสวยงามติดอันดับโลก เป็นหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกที่อยากมาสัมผัสทัศนียภาพ ดำน้ำดูปะการัง เดินเล่น อาบแดด อีกทั้งเป็นแหล่งกิจกรรมต่างๆ ที่น่าชม เราจะไปเที่ยวชมวิถีชีวิตดี หรือจะไปดูสภาพแวดล้อมที่กระบี่ในรูปแบบชมวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือจะเที่ยวแนวผจญภัยกึ่งนักสำรวจเข้าถ้ำ อันเป็นเรื่องเล่าที่มีที่มาของชื่อตำบล กระบี่ใหญ่ และกระบี่น้อย 



        ใครที่เดินทางไปเขาขนาบน้ำจะสังเกตุเห็นภูเขาสองลูกใหญ่น้อยตั้งอยู่ไม่ห่างกัน เป็นภูเขาสูงประมาณ 100 เมตร  ภูเขาทั้งสองลูกนี้ตั้งอยู่คนละฝั่งกันขนาบไปกับแม่น้ำกระบี่ ดูสะดุดตา  ใครที่เคยไปเขาขนาบน้ำมาแล้วจะจำภูเขาสองลูกนี้ได้เป็นอย่างดี มันเป็นภูเขาที่มองเห็นเด่นชัดตั้งและขนาบไปกับแม่น้ำกระบี่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ และภูเขาคู่นี้ยังเป็นสัญลักษณ์จังหวัดกระบี่อีกด้วยนะ ภายในถ้ำเคยเป็นแหล่งพักอาศัยมนุษย์ยุคหิน เคยเป็นที่พักของคนโบราณ เมื่อก่อนมีคนมาพักอาศัยจำนวนมากจากหลักฐานพบโครงกระดูกมนุษย์ แต่ปัจจุบันไม่เหลืออยู่แล้ว ที่นี่เป็นทริปท่องเที่ยวที่มีเรื่องราว มีหินงอก หินย้อย และเส้นทางชมศิลปวัตถุ (ทำเทียม) ที่นักโบราณคดี นักธรณีวิทยา นักมานุษยวิทยา เคยเข้ามาสำรวจพบร่องรอยหลักฐานเศษภาชนะดินเผาประเภทหม้อสามขา โครงกระดูกมนุษย์โบราณ ฯลฯ แสดงให้เห็นถึงที่นี่เคยเป็นที่พักอาศัยของมนุษย์มาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงยุคประวัติศาสตร์ และเคยเป็นที่พักชั่วคราวของทหารญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ณ.เวลานี้ ถ้ำเขาขนาบน้ำได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชมงานศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ งานศิลปะโครงกระดูกยักษ์ ที่สร้างจากเรื่องเล่าตำนานกำเนิดเขาขนาบน้ำนั่นเอง



        ตำนานเล่าว่า สมัยก่อนนั้นมียักษ์อยู่ตนหนึ่งแปลงกายเป็นมนุษย์ ไปรักชอบลูกสาวเจ้าเมือง แต่ทว่าลูกสาวเจ้าเมืองกลับไปชอบพอหนุ่มชาวบ้านธรรมดาๆ ผู้มีวิชาอาคมเก่งกล้าที่ไปร่ำเรียนมาจากอาจารย์ พอมาวันหนึ่งทั้งยักษ์และมนุษย์มาเจอกัน ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงเกิดการใช้ดาบต่อสู้ห่ำหั่นกัน ที่สุดตายลงทั้งคู่ ดาบของยักษ์ซึ่งมีขนาดใหญ่และหนักมากตกอยู่ที่บริเวณนั้น เป็นที่มาของตำบลกระบี่ใหญ่ในปัจจุบัน ส่วนดาบของมนุษย์มีขนาดเล็กกว่าปลิวไปตกไกลอีกฟาก เป็นที่มาของชื่อตำบลกระบี่น้อยในปัจจุบัน ทั้งยักษ์และมนุษย์กลายเป็นภูเขาคนละลูก เมื่อมองภูเขาลูกโตด้านทิศตะวันออกเสมือนเป็นร่างของยักษ์ ภายในถ้ำเป็นรูโพรงขนาดใหญ่เสมือนหน้าอกยักษ์ มีหินงอกชลูดขึ้นไปตรงรูโพรงเปรียบเสมือนกระบี่ที่มนุษย์ผู้มีวิชาอาคมแทงทะลุหน้าอกยักษ์ ส่วนภูเขาลูกเล็กด้านทิศตะวันตกเป็นร่างของมนุษย์ ภูเขาทั้งสองลูกนี้ซึ่งตั้งอยู่คนละฝั่งขนาบไปกับแม่น้ำกระบี่ 





        การเดินทางไปเขาขนาบน้ำสะดวกสบาย นั่งเรือหัวโทงที่ท่าเรือบริการ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงที่หมาย ช่วงระหว่างทางชมนิเวศป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ไปพลางๆ ใครไปเที่ยวช่วงฤดูฝน บางเวลาอาจเจอฝนเป็นหย่อมๆ   ก่อนขึ้นเขาจะมีงานศิลป โชว์ให้อยากรู้อยากเห็นเรื่องเราวของถ้าแห่งนี้ ภายในถ้ำจะเป็นโถงแบ่งเป็นหลายห้อง ทางเดินโล่งมีหินงอกหินย้อย ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย มีส่วนจัดแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ถ้ำยุคหิน มีร่องรอยการก่อกองไฟ เครื่องปั้นดินเผา ถ้วยชาม มีโซนรูปปั้นทหารญี่ปุ่นที่มาตั้งแคมป์ช่วงสงครามโลก และจุดถ่ายรูปที่สวยงาม ใครไปแล้วได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินไปพร้อมๆกัน







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้